24.5.53

นั่งสมาธิแล้วดีอย่างไร

การนั่งสมาธิ ไม่เจาะจงว่าต้องนับถือศาสนาพุทธเท่านั้น  ทุกเชื้อชาติศาสนาสามารถทำได้ทั้งนั้น
การนั่งสมาธิ เพื่อต้องการทำจิตให้สงบ ปราศจากความคิดนึกปรุงแต่งเรื่องภายนอก ไม่จำเป็นต้องใช้คำบริกรรมใดๆ ก็ได้  เช่นทำง่ายๆโดยการใช้จิตสัมผัสกับลมหายใจเข้าออก เมื่อจิตสงบเย็น อย่าหยุดนิ่งเฉย ให้น้อมจิตเพื่อพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ถ้ามีปัญหาใดๆ ที่กำลังทำให้ท่านเป็นทุกข์อยู่ ให้น้อมจิตเข้าไปคิดนึกพิจารณาปัญหาต่างๆ ด้วยความสุขุมรอบคอบอย่างมีสติ

จงยกเอาปัญหานั้นขึ้นมาพิจารณาว่า ปัญหานี้มันมาจากไหน เกิดขึ้นเพราะอะไร? เพราะอะไรท่านจึงหนักใจ ทำอย่างไรถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ทำอย่างไรจึงจะเบาใจและไม่เป็นทุกข์กับมัน การพิจารณาอยู่ด้วยจิตสงบอย่างนี้ จิตของท่านจะค่อยๆ รู้เห็น และเกิดความคิดนึกรู้สึกอันฉลาดข้นมาโดยธรรมชาติของมัน จิตจะสามารถเข้าใจต้นสายปลายเหตุของปัญหาต่างๆ อย่างนี้เรื่อยไป หลังจากที่จิตสงบแล้ว

หรือท่านจะน้อมจิตไปสำรวจการกระทำของตัวเองในอดีตที่ผ่านมา พิจารณาดูว่าท่านทำประโยชน์อะไรให้แก่ส่วนรวมหรือไม่ หรือท่านทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง และตั้งใจไว้ว่าต่อไปนี้ท่านจะไม่ทำสิ่งผิดซ้ำอีก จะไม่พูดสิ่งไม่ดี ที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนและไม่สบายใจ  จะพูดจะทำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกนี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้


จงจำไว้ว่า ปัญหาอันยิ่งใหญ่ในชีววิตของท่านคือความทุกข์ความกลัดกลุ้มใจ และความทุกข์นั้นก็จะไม่หมดไปได้ด้วยการไว้วอนบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่มัีนจะหมดไปได้หากท่านมีปัญญารู้เท่าทันตามเป็นจริงในสิ่งที่ทำให้ท่านเป็นทุกข์นั้น..

ก็...มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น...อย่าพยายามเปลี่ยนมัน  อย่าพยายามเปลี่ยนคนอื่น  จงเปลี่ยนที่ตัวเราเอง

จงจำไว้ว่า..ไม่มีสิ่งใดที่ทำให้ท่านเป็นทุกข์ได้ นอกจากความคิดผิดของท่านเอง

ท่านต้องรู้ว่า..คนส่วนมากในโลกนี้เขามีกิเลส มีความโลภ โกรธ หลง  บางทีก็คิดถูกทำถูก บางทีก็คิดผิดทำผิด บางทีก็โง่บางทีก็ฉลาด   จงให้อภัยเขา ต้องใช้ปัญญาชักจูงเขาให้เดินไปในทางที่ถูกนี่คือหน้าที่ของผู้มีปัญญา ผลที่ท่านได้รับก็คือท่านจะเป็นคนที่มีจิตใจเยือกเย็นและน่าเคารพของคนทั่วไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น